Wednesday, August 29, 2018

สติกเกอร์ติดเล็บเพิ่มความสวยให้เหมือนสาวเกาหลี กับ " The Namie "


เย่เย่เย่ วันนี้มีความมุ้งมิ้งน่ารักสดใสมาฝากกันอีกแล้วค่าาา ซึ่งมั่นใจเลยว่าสาวๆหลายคนต้องชื่นชอบมากๆแน่นอน
ยิ่งใครที่ทำเล็บยิ่งไม่ควรพลาดเลยค่า เพราะว่าเป็นไอเทมที่จะมาเพิ่มความน่ารักให้กับเล็บของสาวๆนั้นเองค่าาา


สำหรับตัวนี่ที่นัทพูดถึงก็คือ สติกเกอร์ติดเล็บ  จากแบรนด์  “ The Namie“ นั้นเอง 
แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่า  มันต่างจากทั่วๆไปยังไง หรือว่ามันดีกว่าหรือพิเศษกว่าตรงไหนน 
เดี๋ยววันนี้นัทจะมารีวิวให้ดูกัน บอกเลยว่าทุกคนต้องชอบบบกันอย่างแน่นอนน


สำหรับสติกเกอร์ติดเล็บตัวนี้เป็นไอเทมที่นัทเพิ่งได้สอยมาลองเล่นกันค่ะ มีหลายแบบหลายสไตส์กันเลยยย 
แถมความพิเศษของเขาคือ นำเข้ามาจากเกาหลี ซึ่งคุณภาพของตัวสติกเกอร์ดีงามอย่างแน่นอน แถมลวดลายก็มีให้เลือก
เยอะมากกๆ สามารถให้เราาครีเอทลุคต่างๆได้ตามใจชอบเลยค่ะ ซึ่งตัวนัทเองก็ได้เลือกมาลองหลากหลายแบบเหมือนกันจะมีทั้ง  

Jewel Sticker 


My Nail Art Accessory


3D Sticker


Nail look (เล็บมือ-เล็บเท้า


ซึ่งแต่ละแบบก็จะแตกต่าง กันตรงดีไซส์ค่ะ แต่ขั้นตอนการทำก็ใช้วิธีการเดียวกันเลย เห็นมั้ยยยย เหมือนที่นัทบอกเลยว่าา 
ว่าง่ายมากเวอร์ติดไปไม่ซ้ำกับคนอื่นๆแน่นอนนค่าาา แล้วเดี๋ยวเราไปดูขั้นตอนการทำติดสติกเกอร์กันดีกว่าาาา ตามมาเลยค่าา


สำหรับอุปกรณ์ที่สาวๆต้องเตรียมกันนะคะ จะมี
1. น้ำยาทาเล็บ ​(สามารถเลือกสีได้ตามใจชอบเลยค่ะ
ของนัทเลือกใช้เป็น Revlon Nail Enamel Angelic เบอร์ 141 ค่ะ 
2. น้ำยาทาเล็บแบบใส 
3. สติกเกอร์ (ของนัทเลือกเป็น Nail look - เล็บมือ)
4. ที่หนีบสำหรับหนีบสติกเกอร์ (ถ้าไม่มีไม่เป็นไรค่า)

สำหรับอุปกรณ์น้อยมากกกก เพราะทำง่าย สะดวกรวดเร็วทันใจจริงๆค่ะ 
ซึ่งขั้นตอนแรกนัทจะเตรียมเล็บของเราให้พร้อมทำความสะอาด 
และตัดแต่งเล็บให้สวยงามตามใจชอบได้เลยค่ะ หรือถ้าใครไม่ได้ไว้เล็บยาวก็ไม่ต้องกังวลนะคะ สามารถทำได้เช่นกันค่ะ 


ต่อมานัทก็จะทาน้ำยาทาเล็บลงที่เล็บให้ครบทั้ง 2 ข้าง จนครบสิบนิ้ว จากนั้นก็รอให้แห้งสนิทค่ะ 
***ถ้าใครที่ทาชอบถ้าสีเข้มก็สามารถทาทับแล้วรอให้แห้งสนิทก่อนนะคะ 
แต่นัททาแค่รอบเดียวเพราะอยากให้เห็นแค่ความเหลือบๆวาวๆของตัวสีค่า


หลังจากที่เล็บแห้งสนิทแล้วว ก็มาถึงขั้นตอนการติดสติกเกอร์ค่ะ เพียงแค่ลอกตัวสติกเกอร์ออกมาแล้ว 
นำมาแปะลงบนเล็บ เท่านี้เรียบร้อยค่า แต่ต้องกะระยะให้แม่นให้ตรงนิดนึงนะคะ 
เพราะว่าถ้าเราดึงออกมาแล้วติดเข้าไปใหม่ ตัวสีเล็บที่ทาไปก่อนหน้าอาจจะหลุดลอกได้ค่ะ แล้วก็อาจจะทำให้ตัวสติกเกอร์ขาดได้ค่าาา


และมาถึงขั้นตอนสุดท้ายย ท้ายสุดของเรา ใช้น้ำยาทาเล็บแบบใส 
ทาเคลือบลงบนสติกเกอร์อีกชั้น  เพียงแค่นี้ก็เสร็จแล้ววค่า


สวยด้วย เร็วด้วย ประหยัดด้วยยยย คุ้มค่าามากกกกกก และนี่ก็คือ ไอเดียที่นัทครีเอทออกมาค่ะ สวยยยมากกก หวานๆใสๆ


เป็นไงกันบ้างค่ะ ชอบกันมั้ยยยยย นัทนี่บอกได้เลยว่าฟินสุดๆค่า ใครอยากมีเล็บสวยๆไว้โชวร์ บอกเลยว่า 
ต้องห้ามพลาด The Namie แน่นอน สินค้าคุณภาพ แถมยังมีส่งออกไปทั่วโลกกกกกกด้วยไม่ต้องบินไกลไปถึงเกาหลี


ก็สามารถมีเล็บสวยๆได้แล้ว หรือ ใครจะสั่งผ่านทาง ร้าน THE BEAUTY TOWN ก็ได้นะคะ 
เพราะนัทก็สั่งจากทางนี้เหมือนกันค่าาา วันนี้ต้องขอตัวไปก่อนแล้วน่าาาา ใครชอบ ก็ฝากแชร์ ฝากไลค์ด้วยน่าาาาา 












Thursday, August 23, 2018

รีวิวเครื่องสำอางเฟสโซ FACE SO! เมคอัพงานผิวที่สาวไทยยยต้องกรี๊ดดดดดดด




ฮัลลลโหลล ถ้าถามว่าช่วงนี้นัทอินกับอะไร ต้องบอกเลยว่า ของานผิวเน้นๆ เป๊ะๆปังๆไปเลยย 
ซึ่งวันนี้เราจะไม่ชักช้าค่ะ เพราะว่าวันนี้เรามีอัพเดตไอเทมกันแบบจัดเต็มๆ แบบยกเซ็ตกันไปเลยเน้ออ
และสำหรับวันนี้นัทจะมาแนะนำแบรนด์เครื่องสำอางที่สาวๆทุกคนต้องชอบกันอย่างแน่นอน 
กับแบรนด์นี่เลยค่าา เฟสโซ (Face So!) เครื่องสำอางสำหรับงานผิว เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ นั้นเองงงง 
ซึ่งต้องขอเกริ่นก่อนเลยว่า เรื่องของงานผิว นัทยกให้หมดใจจริงๆ เพระา  คุมมันก็ดี ปกปิดก็เริ่ด ชอบมากกกก 


และนอกจากนั้น FACE SO! ก็ยังเป็นแบรนด์ที่ Made in Korea อีกด้วย  แล้วเดี๋ยวเรามาดูไลน์เครื่องสำอาง
ทั้งหมดที่นัทได้มาลองใช้กันดูดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง ต้องบอกก่อนเลยว่า เยอะแยะมากมายสุดๆ
แต่แอบขอบอกนิดนึงว่า แบรนด์นี่จะมีเฉดสีที่สว่างกว่าแบรนด์อื่นๆประมาณหนึ่งเฉดนะคะ 


เป็นไงค่ะทุกคนนนนนน มันดีงามระรานตาไปหมดจริงๆ ฟินๆมากกก ความงานผิวอ่ะเนอะ 

ไม่ว่าจะแป้งเอ๋ย รองพื้น คูชั่นเอ๋ย คอลชีลเลอร์เอ๋ยย กรี๊ดๆสลบๆไปเลยเด้ออออออ  แถมตัวแพ็คเก็จ

ก็มีความดีงามไม่แพ้กัน สวย หรู ดูดี มากๆๆ แล้วเดี๋ยวนัทจะมาสวอซ+รีวิว แต่ละชิ้นให้ดูกันอีกทีนะคะ ตามมาเลยยย



สำหรับตัวแรก จะเป็นตัว Face So! Skin Color Correcting Fluid (เฟสโซ สกิน คัลเลอร์ คอร์เร็กติ้ง ฟลูอิด) ราคา 345.-
ซึ่งตัวนี้จะมีมาทั้งหมด 3 เฉดค่ะ จะมี สีม่วง สีเขียว และ สีเหลือง ซึ่งก็จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป


เช่น สีม่วง จะช่วยในเรื่องของการอำพรางริ้วรอย สีผิวที่ดูไม่สม่ำเสมอกัน และยังช่วยให้เครื่องสำอางติดทนด้วย 
สีเขียว ตัวนี้จะเหมาะกับผิวที่มีรอยแดงต่างๆ สีสุดท้ายสีเหลือง จะช้วยทำให้ผิวหน้าที่หมองคล้ำ ดูกระจ่างใสขึ้น 


คะแนน 9.5/10 : 9.5 ไปเลยค่ะสำหรับตัวนี้ชอบมากกก ซื้อใช้ต่อแน่นอนปกป้องริ้วรอยได้ดีสุดๆ 

ต่อมา Maximum Cover Concealer (แมคซิมัม คัฟเวอร์ คอนซีลเลอร์) ราคา 345.- 
สำหรับตัวนี้จะมีมาให้เลือกถึง 3 เบอร์ ซึ่งนัทเองเลือกมาเป็นเบอร์ No.1 Beige ค่ะ 


ตัวเนื้อคอนซีลเลอร์ มีความปกปิดได้ ดีเลยที่เดียวค่ะ 
เพราะเนื้อครีมผสมซิลิโคนเข้มข้น แต่ให้ความรู้สึกบางเบาไม่หนักผิวหน้าเลย


คะแนน 8.5/10 :  รู้สึกว่าปกปิดได้ดีค่ะ แต่ตัวเนื้อครีมมีความเกลี่ยยากไปนิดนึง TT 

มาในส่วนของรองพื้นกันบ้าง Super Matte Fit Foundation (ซุปเปอร์ แมท ฟิต ฟาวเดชั่น) ราคา 765.-
ตัวนี้เป็นรองพื้นสูตรน้ำ ที่มีมาให้เลือก 4 เฉด ขอนัทก็เลือกเบอร์ No.1 Beige เหมือนเดิมค่ะ 


สำหรับตัวนี้จะให้งานผิวที่ดูแมทๆ แต่ปกปิดได้ดีเลยทีเดียว ตัวเนื้อรองพื้นก็เกลี่ยง่ายให้ความรู้สึกงานผิวสุดๆ 




คะแนน 9/10 :  แอบบมีความใช้ยากของตัวแพ็คเก็จค่ะ แต่โดยรวมของตัวเนื้อรองพื้นถือว่าดีจริงงจ้า

สำหรับตัวนี้  Asian Super Matte Light Powder SPF 30 PA+++ (เอเชี่ยน ซุปเปอร์ แมท ไลท์ พาวเดอร์) ราคา 755.- 
จะเป็นแป้งพัฟผสมรองพื้นเนื้อแมท ที่มีให้เลือก  4  เฉด 


แถมตัวแป้งก็ควบคุมความมันได้ดีมากๆ แถมปกปิดริ้วรอย รูขุมขนต่างๆบนผิวหน้า
แล้วอยากจะบอกว่าชอบพัฟมากกกกก นุ่มมากกกก แถมดีไซส์แพ็คเก็จสวยจริงๆค่าา



คะแนน 8/10 : ปกปิกดีค่าาแต่สีแอบออกโทนเหลืองไปหน่อยย หรือนัทขาวเกินไปก็ไม่รู้ 555

ต่อกันยาวๆค่ะมาที่คุชชั่นกันบ้าง Asian Perfect Light Cushion (เอเชี่ยน เพอร์เฟค ไลท์ คุชชั่น) ราคา 755.-
ตัวนี้จะมาให้เลือก 3 เบอร์ค่ะ นัทเลือกใช้เบอร์ No.1 Beige เหมือนเดิม ตัวนี้นัทชอบมากก เกลี่ยง่าย ไม่คราบ ไม่หนา ไม่หนัก


คือเป็นคุชชั่นที่ให้เราได้โชว์งานผิวจริงๆ แต่ปกปิดก็ได้ดีสุดๆ ซึ่งทางแบรนด์เคลมมาเลยว่าเนื้อบางเบาเนรมิตให้ผิวเรียบเนียน
คือจริงสุดๆ ยกให้เป็นคุชชั่นที่ถูกใจอีกตัวเลยกว่าว่าได้ และยังช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเพราะมี SPF50 PA+++ 




คะแนน 10/10 : ดูจากเกณฑ์การให้คะแนนแล้วนั้น เราจะไม่พูดเยอะค่ะ เพราะว่าชอบแบบจริงจังมากก เลิฟมากก 

มาที่แป้งฝุ่นกันบ้าง Light Air Loose Powder (ไลท์ แอร์ ลูส พาวเดอร์) ราคา 595.-
ตัวนี้จะเป็นแป้งฝุ่นที่ตัวเนื้อแป้งมีความเนียนมากก จะช่วยปรับผิวให้ดูสม่ำเสมอ


และควบคุมความมันส่วนเกินบนในหน้า 
ตัวนี้จะมาให้เลือกทั้งหมด 4 เฉด ส่วนนัทเหมือนเดิมเลยค่า No.1 Beige ><


คะแนน 9.5/10 : ตัวนี้ชอบความแพ็คเก็จดีงามมากใช้ง่ายกว่าแบรนด์อีกเยอะมากกก ไม่ทำให้ตัวแป้งฟุ้งกระจาย

สำหรับงานผิวตัวสุดท้ายจะเป็น Super Fix Matte Finishing Powder  (ซุปเปอร์ ฟิคซ์ แมท ฟินิชชิ่ง พาวเดอร์) ราคา 655.-

ตัวนี้เหมาะกับการใข้ระหว่างวันหรือหลังจากลงเมคอัพทั้งหมดแล้ว 




เพราะจะช่วยให้ผิวของเราดูเนียนแบบธรรมชาติ 

ป้องกันการเหงื่อไม่ให้เครื่องสำอางของเราไหลเยิ้ม หรือ เปลี่ยนสีระหว่างวัน 






คะแนน 8.5/10 : ชอบตัวนี่ทาระหว่างวันคุมมันถือว่าใช้ได้เลยค่ะ เซ็ตเมคอัพได้ดีด้วย

มาถึงตัวสุดท้ายท้ายสุดกันแล้วจ้าาา สำหรับตัวนี้จะเป็น 
Pro Face Contour & Glow Shimmer (โปร เฟซ คอนทัวร์ แอนด์ โกรว ชิมเมอร์) ราคา 495.-


สำหรับตลับนี้ ถือว่ามาครบจบทีเดียวเลยค่ะ เพราะเป็นทั้ง คอนทัวร์พาเลท ไฮไลท์ เฉดดิ้ง และ บรอนเซอร์ 


และตัวนี้นัทได้มาลองใช้ทั้งสองเฉดเลย บอกเลยว่า สีสวยมากกกก สีชัดด้วย 
แบบไม่ตรงถมเยอะเลยค่า ปาดนิดเดียวก็สวยดูเพิ่มมิติได้ทันใจสุดๆ




คะแนน 7.5/10 : จริงๆมันดีงามมากน่า แต่สีมันเข้มกว่าตัวนัทมากๆ
เลยอาจจะไม่ค่อยตอบโจทย์เท่าไหร่แต่เอามาทาตาก็สวยไปอีกแบบ

ก็เป็นการรีวิวที่ยาวมากๆ ใครอ่านมาถึงตรงนี้ก็ต้องกราบที่หัวใจสามทีไปเลยยยย ขอบคุณมากกกค่าาา แต่ยังค่ะ 
ยังไม่หมดเท่านั้น เราจะไปแต่งหน้ากันต่อเลยยยยยย และต้องบอกเลยว่างานผิวต้องมาค่ะ เพราะ  FACE SO!  สามารถ
ให้เพื่อนครีเอทลุคกันได้อย่างสมใจ ไม่ว่าจะแต่งหน้า Everyday Look แต่งหน้า เกาหลี  หรือ จะสายฝอ. ก็มีงานผิวสวยๆได้สมดั่งใจ 


สำหรับขั้นตอนแรกนัทก็จะลงตัว Face So! Skin Color Correcting Fluid ทั้ง 3 เฉด
ตามจุดต่างๆที่บริเวณที่ต้องการปกปิด แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้ทั่ว ซึ่งเจ้าตัวนี้ยังสามารถใช้แทนเมคอัพเบสได้ด้วยเด้อออ


มาลง Maximum Cover Concealer กันต่อเลยค่า โดยนัทจะเน้นที่รอยสิว รอยดำรอยแดงต่างๆ
หรือแม้แต่รอยคล้ำใต้ตา จากนั้นก็ใช้ฟองน้ำเกลี่ยเบาๆให้ทั่วบริเวณผิวหน้า 


สำหรับรองพื้นนัทเลือกที่ใช้ตัว Asian Perfect Light Cushion เพราะรู้สึกว่าอยากให้ลุคนี้
ดูเป็นงานผิวแบบฉ่ำๆ แถมตัวคุชชั่นก็สามารถตอบโจทย์นัทได้แบบตรงใจ


และนัทก็จะเซ็ตผิวด้วย Light Air Loose Powder อีกครั้งนึงค่ะ 
เพื่อช่วยในเรื่องควบคุมความมันและให้ผิวดูเนียนมากยิ่งขึ้น


และเดี๋ยวนัทขอตัวไปเขียนคิ้วแล้วมาเพิ่มสีสันเล็กๆน้อยๆให้ดวงตา 
ด้วยการ Pro Face Contour & Glow Shimmer No.3 Oval Natural 
โดยเลือกใช้สีส้มทาลงบริเวณเปลือกตา เท่านี้ก็เรียบร้อยค่าาา


แล้วมาต่อกันที่ คอนทัวร์ กับ เฉดดิ้ง นัทจะใช้ Pro Face Contour
 & Glow Shimmer No.2 Oval Beige ในการเพิ่มมิติให้กับใบหน้านั้นเอง
ขอไปปัดขนตา ปัดแก้ม แล้วก็ทาปากแปปนะคะ >< 
แล้วนัทก็จะใช้ Pro Face Contour & Glow Shimmer No.2 Oval Beige ฉดสีสว่างสุดในการลงไฮไลท์


แล้วปิดท้ายขั้นตอนทุกอย่างด้วย Super Fix Matte Finishing Powder ค่าา เท่านี้ก็เรียบร้อย


และนี่ก็คือ Finish Look ของนัทเองค่าาา เย่ๆๆๆๆ เพียงแค่นี้เราก็จะได้ลุคที่ดูงานผิวธรรมชาติสุดๆ


ต้องบอกเลยว่าพอได้ลอง Face So! ก็รู้สึกประทับใจในตัวสินค้าจริงๆแบบจริงๆ
เพราะผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นคือตอบโจทย์มากๆ ได้งานผิวอย่างใจหวังจริงๆ 
แล้วถ้าใครสนใจ สามารถ ไปเลือกซื้อสินค้ากันได้ที่ 

EVEANDBOY
จำนวน 6 สาขา 
1.The Underground (Siam Square One) ชั้น LG
2.The Mall บางแค ชั้น1
3.สาขา The Mall บางกะปิ ชั้น3
4.Mega Bangna ชั้น1
5.สาขา Zpell @ ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต ชั้น1
6.สาขา Fashion Island ชั้น 2 ฝั่ง big C

 ร้าน Beautrium จำนวน 3 สาขา ดังนี้
1. ชั้น G, Centerpoint Of Siam Square (ดิจิตอลเกตเวย์เดิม)
2. ชั้น 3, Seacon Srinakarin (ซีคอนศรีนครินทร์ ฝั่งโลตัส)
3. โซนชิงช้า, Asiatique The RiverFont (เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์)

และช่องทางออนไลน์

Lazada, Shopee, Konvy และ Beauticool 

หรือสอบถามรายละเอียดต่างได้ที่ Website : http://www.face-so.com
Facebook : https://www.facebook.com/facesoskincosmetics/
LINE ID : @faceso หรือ คลิก http://line.me/ti/p/%40bsn0647b
Instagram : https://www.instagram.com/facesoskincosmetics/
Twitter : https://twitter.com/facesocosmetics

วันนี้นัทขอตัวลาไปก่อนนนะคะ อยากมีผิวสวยงานผิวปังๆต้องอย่าลืม!!! 
เฟสโซ (Face So!) เครื่องสำอางสำหรับงานผิว เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะนะคะ

#FaceSo #เครื่องสำอางสำหรับงานผิว #งานผิวสำคัญ #เพื่อผิวคนไทยโดยเฉพาะ #เฟสโซ