Wednesday, February 19, 2020

ผมสวยสุขภาพดีง่าย ด้วยไดร์เป่าผม LESASHA BIO Ceramic


ฮัลโหลสวัสดีค่ะหลังจากห่างหายกันไปนาน วันนี้จะมาอัพเดทไอเท็มตัวใหม่ที่นัทได้มา
ซึ่งใครที่อยากได้ไดร์เป่าผมตัวใหม่ หรือ กำลังตัดสินใจซื้อรีวิวช่วยได้อย่างแน่นอน
แต่สำหรับไอเท็มตัวนี้จะเป็นของแบรนด์อะไร หน้าตาเป็นยังไงนั้นตามกันมาดูต่อเลยค่ะ


ซึ่งก่อนที่จะพาทุกๆ คนไปดูกัน ทางเราวันนี้จะมาพูดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นก่อน
เนื่องจากว่านัทเองเป็นคนที่รู้สึกว่าการเป่าผมนานๆ เป็นอะไรที่เสียเวลามากกๆ แล้วยิ่งนัทไดร์ตัวเก่าของนัท
มีกำลังแรงไฟสูง เลยทำให้เจอกับปัญหาในเรื่องหนังศรีษะลอกอยู่บ่อยครั้ง
ถือว่าเป็นเรื่องที่กวนใจเราสุดๆ เพราะเกิดจากความร้อนที่มากระทบหนังศรีษะเรา
จนบางทีก็กลายเป็นคนที่ดูผมแห้ง ไม่มีน้ำหนักเลย


จนตัวนัทเองได้มารู้จักกับไดร์เป่าผม ตัวหนึ่ง จากแบรนด์ LESASHA ซึ่งมั่นใจเลยว่าไม่มีใครไม่รู้จัก 
โดยไดร์ตัวนี้ที่ได้ะเป็นรุ่น BIO Ceramic Hayer ค่ะ ต้องขอบอกก่อนว่าทางเราชอบดีไซส์มากก 
หรูหราดูแพงสุดๆ และในส่วนของสีไดร์นั้นก็มีมาให้เลือกถึง 3 สีเลย ก็จะมีน้ำเงิน แดง ขาว 
สีที่นัทเลือกมาเป็นสีน้ำเงินค่ะ แต่จริงๆ ก็คือสวยทุกสีนะ 


ซึ่งความพิเศษของเจ้าไดร์ตัวนี้คือ ดีงามพระรามแปดมากทุกคน เนื่องจากว่าเขามี
BIO Seramic หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันคืออะไรกัน ต้องบอกก่อนว่าเจ้าตัวนี้จะมาช่วยในเรื่องของความร้อนค่ะ 
ที่จะมาปรับอุณหภูมิให้สมดุลเพื่อช่วยให้ผมของเราแห้งเร็วยิ่งขึ้น แถมยังไม่ทำร้ายเส้นผม และ หนังศรีษะอีกด้วย 
และจากในภาพจะเห็นว่า ตรงช่องที่เป็นฝั่งกระจายลมออกมา ทางแบรนด์
ก็ดีไซส์ให้ออกมาในลักษณะของรังผึ้ง ที่จะช่วยให้การกระจายตัวของลมนั้น ออกมาได้เต็มที่ 


แต่เท่านี้ยังไม่พอจ้าาาา เขายังมี IONIC ที่จะมาช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของผมชี้ฟู
โดยการปล่อยประจุลบออกมานั้นเอง ซึ่งคุณสมบัติจุดนี้ก็เป็นอีกอย่างที่นัทชอบมากๆ 
ตอบโจทย์สาวผมหนาได้ดีสุดๆ ไปเลย 


และอีกคุณสมบัติหนึ่งที่นัทชอบก็คือ กำลังแรงไฟของไดร์ตัวนี้จะอยู่ที่ 1200 W 
แต่สามารถทำงานได้เทียบเท่ากับไดร์ที่มีกำลังไฟ 1800 W จิ๋วแต่แจ๋วมากจริงๆ จ้าาาา 
แล้วเดี๋ยวเราไปต่อกันที่วิธีการใช้กันเลยดีกว่า 


สำหรับขั้นตอนการใช้ก็ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ ใช้ง่ายมากๆ ตัวเปิดปิด จะมาในรูปแบบของสวิตซ์
ที่เลื่อนขึ้นลง แรงลมก็จะมี 2 แบบ เป็นลมร้อน และ ลมเย็น โดยลมร้อนก็จะมีมาเลือกใช้กันถึง 2 ระดับค่ะ 


นอกจากนี้ใครที่เป็นสายเที่ยวไม่ว่าจะในประเทศต่างประเทศ แฮปปี้แน่นอน 
เพราะเจ้าไดร์ตัวนี้สามารถพับได้ ธรรมดาที่ไหนล่ะทุกคน เก๋มากกกกแม่ 
นอกจากน้ำหนักเบา แล้วก็คือพกพาสะดวกสุดๆไปเลย


สำหรับความรู้สึกหลังใช้นัทถือว่าผ่านมากๆ ค่ะ คิดว่าได้ลูกรักคนใหม่แล้วจริงๆ 
เพราะมันเบามากๆ ใช้เป่าผมก็คือไม่เมื่อยไม่หนักเลย และที่สำคัญไม่ร้อนหนังศรีษะ
แถมแห้งไวสุดๆ ไปเลย ในวันที่เร่งรีบก็คือ ให้เต็มสิบไปเลยยยย 


และถ้าใครสนใจแอบบอกนิดนึงว่า ราคาไม่รุนแรงอย่างที่คิด แต่ความคุ้มค่าจัดเต็มมาก
เพราะราคาแค่ 1,990 บาท ทุกคนมันคุ้มจริงๆน่าา และกับสุขภาพผมและหนังศรีษะที่ดี
รับรองว่า LESASHA ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนนนนนนน แอบมีคลิปมาฝากกันด้วยยย ไปชมกันนน 


#ไดร์เป่าผม #แนะนำไดร์เป่าผม #hairdryer 

Tuesday, September 3, 2019

จบทุกปัญหาสิวๆ กับ เจลทาสิว จากแบรนด์ Nami



ฮัลโหลลลลลลล ทุกคนวันนี้นัทมีตัวช่วยที่จะมาอัพเดตให้ทุกๆคน ที่ประสบพบเจอปัญหาเรื่องสิวๆ แบบนัท 
ไม่ว่ารอยสิวต่างๆ ฝ้า สิวอุดตัน ผิวหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส หน้ามัน 
วันนี้นัทจะมาบอกต่อไอเทมที่จะช่วยให้ ชีวิตของเราง่ายขึ้นมากๆ 


กับนี่เลยค่า “ Nami I’m Fresh Natural AHA Peeling Gel ” (นามิ แอม เฟรช เนเชอรัล เอเอชเอ พีลลิ่ง เจล)
หรือ เรียกง่ายๆสั้น ว่า เจลมะนาว มะเฟือง จากแบรนด์ Nami นั้นเองโดยตัวนี้มีสารสกัดเข้มข้นจากมะนาวและมะเฟืองเป็นหลักค่ะ 
และก็ยังมี AHA BHA จากธรรมชาติที่จะมาช่วยดูแลผิวพรรณของเราอีกด้วย ซึ่งบอกเลยว่า เจ้าซองนี้
สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิวเลยค่ะ แพ้ง่ายแบบนัทก็สามารถใช้ได้น่าา


แล้วคือเจ้าตัวนี้หลักๆก็จะดูแลในเรื่องของสิวค่ะ สิวอุดตัน สิวเสี้ยนต่างๆ รอยดำรอยแดง 
ก็คือเอาอยู่ในซองนี้ซองเดียวเลยจริงๆ แล้วยังช่วยให้ผิวของเราดูสม่ำเสมอเรียบเนียนอีกด้วย 
แต่ขอแอบกระซิบถึงเคล็ดลับพิเศษของเขานิดนึงด้วยว่า เจ้าตัวนี้มีสารสกัดจากเมือกหอยทาก
ที่นำเข้ามาจากประเทศเกาหลีเลยทีเดียวเริ่ดดดดดสุดๆไปเลยจ้าาาาาา 


สำหรับตัวเนื้อเจลของเขาจะมีสีเขียวอ่อนๆค่ะ กลิ่นคือหอมมาก อ่อนหอมๆ 
ให้ความรู้สึกสดชื่นมากๆ ทาแล้วก็แอบฟินไปอีกกแล้วที่ชอบคือมันไม่เหนียวเหนอะหนะหน้าเลย 


แถมใช้ก็ง่าย ได้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะทาจะแต้มจะพอกก็คือใช้ได้เหมือนกันหมดเลยจ้าาา 
และอย่างที่นัทไปบอกไปว่า เจ้าตัวนี้สามารถใช้ได้หลากหลายวิธี แต่วิธีหลักๆ ที่นัทเลือกใช้ก็คือการทาบางๆ 
แล้วทิ้งไว้ประมาณ 5-15 นาทีเท่านั้น แล้วก็ล้างออก คือจะเห็นเลยว่าเรื่องของรูขุมขนมีความกระซับมากขึ้น


ผิวหน้าดูกระจ่างใสแบบเห็นได้ชัดด้วยค่ะ โดยส่วนตัวจากที่ได้ลองใช้มา ก็คือว่าโอเคเลยจริงๆค่ะ 
แต่ในส่วนของเรื่องรอยดำรอยแเดง ก็อาจจะต้องใช้เวลาให้เวลาสักนิดนึงน่าา รับรองว่าเห็นผลชัวร์ๆค่า 


และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปหาซื้อมาลองใช้กันได้น่าา จะซื้อเป็นซอง เป็นกล่อง
เป็นหลออด ก็คือคุ้มสุดๆไปเลย รับรองเลยว่าแบรนด์ “Nami ” เนี่ยไม่เคยทำให้ทางเราผิดหวังจริงๆ จ้า 





Saturday, July 27, 2019

สาวกพีชห้ามพลาด มาบำรุงผิวให้ดูดีมีออร่า กับ AIME Whitening Body Serum


ช่วงนี้ก็จะเจอกันบ่อยๆ นิดนึง เพราะเนื่องจากว่าเรามีไอเทมต่างๆ ที่จะมาบอกต่อให้ทุกคนได้รู้จักกัน
เนื่องจากว่าช่วงนี้ มีหลายคนมาถามนัทกันเยอะมากว่าทำไมผิวดูขาวแบบนี้ วันนี้ก็เลยมีรีวิวตัวนี้มาให้ทุกคนได้ดูกันนั้นเอง
ต้องขอบอกก่อนเลยว่า ใครที่ปัญหาเรื่องความหมองคล้ำ ผิวไม่กระจ่างใส อยากขาวใส ดูดีมีออร่า ไม่ควรพลาดเน้อ


เพราะวันนี้นัทจะมาพูดถึงไอเทมตัวนึงจากแบรนด์ AIME กับตัวนี้เลย AIME Whitening Body Serum Peach Alpha Arbutin นั้นเองค่ะ 
แต่ที่นัทชอบเป็นพิเศษเลยคือ มันเป็นกลิ่นพีชค่ะทุกคน ใครที่อินอะไรแบบนี้เหมือนกัน ได้ใช้ก็คือ ฟินจริงๆ 


ทาไปแฮปปี้ไปเด้ออ แล้วนอกจากกลิ่นจะหอมแล้วสารสกัดหลักๆ ของเขาก็คือ พีช นั้นเองโดยทางแบรนด์ก็นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่นเลย
แถมยังมีวิตามินต่างๆ ที่จะมาช่วยดูแลสุขภาพผิวของเราเพิ่มเติมด้วยไม่ว่าจะเป็น VITAMIN C, VITAMIN E , VITAMIN B3 ค่ะ 


แล้วโดยหลักๆ หน้าที่ของเจ้าขวดนี้ก็คือ จะมาช่วยดูแลและบำรุงผิวของเราให้ดูกระจ่างใส 
นุ่มชุ่มชื่น มีออร่า และยังผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป
และสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่ดีกว่าให้กับเราค่ะ ในเรื่องของริ้วรอยก็ยังช่วยได้อีกด้วยแถมไม่ทำให้ผิวของเราบางลง
และที่สำคัญ คือ สามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ผิวแพ้ง่ายแบบนัทก็ยังสามารถใช้ได้เหมือนกัน

แล้วเดี๋ยวนัทพาไปดูในส่วนของตัวเนื้อเซรั่มกัน ว่าจะเป็นยังไง ตามมาดูกันเลยค่า 


สำหรับตัวเนื้อเซรั่มของเขาก็จะเป็นเนื้อเจล ค่ะ ทาลงผิวแล้วก็รู้สึกเย็นๆ เป็นอะไรที่ชอบมากก ซึมก็ไว ไม่เหนียวเหนะหนะผิวเลย 
และถ้าทุกคนสังเกตุดีๆ ในภาพ จะเห็นเลยว่า มันจะมีเม็ดบีทสีชมพูเล็กๆ อยู่ในชวดค่ะ 
โดยเจ้าเม็ดนี้จะมาช่วยทำให้ผิวเราดูเปล่งประกายมีออร่า
เพียงแค่เราปั้มออกมาตัวเม็ดบีทก็จะผสมออกมากับตัวเนื้อเจลของเรานั้นเองค่า 


และจากความรู้สึกของนัทที่ได้ลองใช้มา ถือว่า โอเคมากๆค่ะ ผิวนุ่มขึ้น กระจ่างใสขึ้น ยิ่งถ้าใช้ต่อเนื่องเรื่องความขาว
ก็จะยิ่งเห็นผลได้ชัดเจน แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆ อยู่ตลอดเวลาค่ะ  ผิวก็มีความลื่นๆด้วย ชอบมากกกก
โดยส่วนตัวนัทเองก็ใช้ทาทั้งเช้าและเย็นเลย สบายผิวจริงๆ นะ


และถ้าหากใครสนใจก็สามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้เลยค่า จริงๆ อยากให้ทุกคนได้ลองใช้กันดู
รับรองว่าจะชอบ และติดใจแบบนัทแน่นอน ยิ่งคนที่ไม่ชอบทาโลชั่น ถ้าได้ลองตัวนี้แล้วต้องยกให้เป็นลูกรักอีกคนแน่ๆ 
เพราะมันสบายผิวจริงๆ ค่ะ แถมผิวดูดีมีออร่า อีกด้วย ไม่ใช้ไม่แล้วน่าาาา  วันนี้แอบแถมคลิปรีวิวมาให้ดูกันอีกด้วย ตามไปดูกันน



Thursday, July 25, 2019

ผิวสวยไม่กลัวแดด กับ แป้ง BROAD SPECTRUM จาก ARTY


วันนี้นัทจะมาบอกต่อไอเทมที่จะทำให้ชีวิตประจำวันของนัทและสาวๆ หลายคนง่ายขึ้น
เพราะทุกวันนี้การจะออกจากบ้านได้แต่ละครั้ง บางคนใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง 
แต่สำหรับบางคนก็นานกว่านั้น ไหนจะแต่งตัว ไหนจะแต่งหน้า โอ้โห้ เสียเวลาชีวิตไปเยอะจริงๆ เด้อ


ซึ่งแบรนด์ที่นัทจะมาพูดถึงวันนี้คือ แบรนด์ “ ARTY PROFESSIONAL ” นั้นเอง 
โดยเขาได้ออกไอเทมตัวนึงมาแล้วมันเป็นไอเทมที่เราตามหา จนต้องยกให้เป็น Best Friend Best Powder 
เพราะว่าสามารถได้ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนัทได้อย่างดี


สำหรับเจ้าตัวนี้ก็คือ แป้งผสมรองพื้นรุ่น “ UV PROTECTIVE POWDER FOUNDATION  BROAD SPECTRUM SPF 50+”
(อาร์ทตี้ โปรเฟสชั่นแนล ยูวี โพรเท็คชั่น พาวเดอร์ ฟาวเดชั่น บรอด สเปคตรัม) หรือ ถ้าให้เข้าใจง่ายๆ
ก็คือ แป้งกันแดดนั่นเอง คือมันเวิคตรงที่แค่เราทาแป้งก็เท่ากับทากันแดดแล้วอ่ะ
แล้วแถมยังช่วยในเรื่องการปกปิดและความเรียบเนียนอีกด้วย คุ้มค่าสุดๆ ไปเลย


แต่เท่านั้นยังไม่พอเด้อ ยังมีความพิเศษตรงที่ แป้งกันแดดตัวนี้มีค่าการปกป้องแบบ BROAD SPECTRUM 
ที่จะมาช่วยปกป้องผิวเราจากแดดเมืองไทย ที่ร้อนแบบเอาเป็นเอาตายกันสุดๆ  และนอกจากนี้ก็ยังช่วยในเรื่องของ 
การปกป้องผิวจากรังสี UVA UVB และ Blue light ต้องขอกระซิบเลยว่า อันนี้ตัวนัทเองชอบเป็นพิเศษค่ะ
เพราะทุกวันนี้อาชีพหลักๆ ของเราทุกคนต้องเจอแสงสีฟ้าอยู่แถบจะตลอดเวลา ไม่ว่าจะ มือถือ ทีวี คอมพิวเตอร์
ซึ่งรู้สึกเลยว่าเจ้าตัวนี้ตอบโจทย์ให้กับนัทได้อย่างตรงใจ แถมตอนนี้ที่ USA ก็กำลังเป็นกระแสมาแรงอีกด้วย


แล้วมาต่อกันในส่วนของตัวตลับกันดีกว่าค่า ในตลับเขาก็จะแบ่งเป็นสองชั้นตามภาพเลย ดีตรงที่ตัวนี้
เขามีที่เก็บพัฟมาให้ สะดวกสบายต่อการใช้งานไปอีก แล้วอีกนิดที่ตัวนัทเองแอบเซอไพรส์คือ 
เขามีซองผ้ากำมะหยี่สีดำมาให้สำหรับใส่ตลับแป้ง มีความไฮโซโก้เก๋มากเว่อร์ ดูดีสุดๆไปเลยจ้าาา


แล้วมาต่อกันในส่วนของตัวตลับกันดีกว่าค่า ในตลับเขาก็จะแบ่งเป็นสองชั้นตามภาพเลย ดีตรงที่ตัวนี้
เขามีที่เก็บพัฟมาให้ สะดวกสบายต่อการใช้งานไปอีก แล้วอีกนิดที่ตัวนัทเองแอบเซอไพรส์คือ 
เขามีซองผ้ากำมะหยี่สีดำมาให้สำหรับใส่ตลับแป้ง มีความไฮโซโก้เก๋มากเว่อร์ ดูดีสุดๆไปเลยจ้าาา


ท๊าาดาาา และนี่คือภาพ before-after ของนัทเองค่า ต้องบอกก่อนเลย ฝั่ง before เนี่ยคือไม่ได้ลงไม่ได้ทาอะไรเลย 
จะเห็นได้จากทั้งรอยดำ รอยแดง รอยสิวต่างๆ บนใบหน้า ส่วนฝั่งที่ทาแล้ว นัทก็ลงแต่ตัวแป้งเลยย ตอนแรกไม่คิดจริงๆว่า
มันจะเนียนแบบปิดรอยต่างๆ ได้ แต่มันได้จริงๆค่ะทุกคน คือไม่ต้องลงอะไรแล้ว แป้งตลับเดียว จบเลยค่ะ 


ผิวดูกระจ่างใสขึ้นแบบเห็นได้ชัด ดูจากใต้ตาก็คือหายดำไปเลยเด้ออ แถมยังกั้นน้ำ กั้นเหงื่อ 
ระหว่างวันที่ใช้ก็คุมความมันได้ดีเลยทีเดียวค่ะ แล้วที่นัทชอบอีกอย่างคือตัวเนื้อแป้งของเขา
มีความเบาบาง ทาแล้วไม่หนักหน้า ไม่ทำให้รู้สึกระคายเคืองผิวด้วย คนแพ้ง่ายแบบเรา  
ถือว่า ทาง ARTY มีแป้งที่ตอบโจทย์ความต้องการของเราได้จริงๆ ทางเราก็แฮปปี้ดี้ด๊าาไปเลยยยยค่ะ


เป็นไงกันบ้างค่ะ กับรีวิวในวันนี้ นัทมั่นใจเลยว่า แป้งกันแดดตัวนี้ของ ARTY
สามารถตอบโจทย์ให้กับสาวๆ หลายๆคนได้เลยทำให้ประหยัดเวลาในการลงผิวไปอีกเยอะ 
มีเวลาไปทำนู่นนี้นั้นมากมาย ตอนนี้ก็คือยกให้เป็นเพื่อนสนิท เพื่อนรู้ใจที่พกไปไหนมาไหน
ด้วยตลอดจริงๆ รับรองว่าถ้าใครได้ลองใช้แบบนัท ก็ต้องชอบเจ้า ARTY ตัวนี้กัน 
สำหรับใครที่สนใจก็สามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
facebook : ARTY PROFESSIONAL นะคะ รับรองว่าไม่มีผิดหวังแน่นอนนน 

#ARTYPROFESSIONAL  #แป้งARTY  #BestFriendbestpowder #แป้งที่ดีที่สุด 
















Monday, July 22, 2019

จบทุกปัญหาผมร่วงผมไม่แข็งใน 21 วัน กับ MoReturn แบรนด์จากเกาหลี


วันนี้ถึงตามาอัพเดตเรื่องของการดูแลเส้นผมกันบ้าง หลังจากที่ไม่ได้อัพเดตเรื่องนี้กันมาสักระยะ 
 เพราะวันนี้นัทเอามาแบบจัดเต็มชุดใหญ่กันไปเลยจ้าา 
แล้วยิ่งถ้าใครมีปัญหาเรื่องการดูแลผมแล้วล่ะก็ รีวิวนี้เหมาะสุดๆ ขอบอกเลยยยย


แล้วสำหรับผลิตภัณฑ์ที่นัทจะมารีวิววันนี้ก็คือแบรนด์ MoReturn นั้นเองค่ะ อ่ะต้องบอกก่อนว่าเขาเป็นแบรนด์จากเกาหลีเลยนะ
โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมีอยู่ 2 ชนิด ตัวแรกก็จะเป็น MoReturn Shampoo และ MoReturn Hair Care Tonic นั้นค่ะ


ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ก็จะช่วยในเรื่องของ คนที่มีปัญหาเรื่องผมร่วง สารพิษอุดตันหนังศรีษะรากผม 
และช่วยฟื้นฟูสุขภาพผมของเราอีกด้วย แล้วจะเห็นจากในภาพเลยว่าทางเรานั้นมีครบทั้งเซ็ตนะจ๊ะ 
แล้วคือมาในแพ็คเก็จที่ดูดีสมราคาสุดๆไปเลยยยยยย 


อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆคน อาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ มันแตกต่างจากแชมพูอื่นๆยังไง หรอ มันดีกว่าขนาดนั้นเลยหรอ 
ทางเราขอบอกเลยว่าาา  มันดีจริงๆค่ะ เพราะนอกจากคุณสมบัติของเขาที่เยอะแยะแล้วว 
สรรพคุณของเขาก็ไม่น้อยหน้ากันเลยจริงๆ เพราะทาง MoReturn มีการนำสารสกัดสุดยอดสมุนไพรจากเกาหลี
ทั้ง โสมแดง ตังกุย ปักคี้ ที่จะมาช่วยดูแลเส้นผมของเราและแก้ปัญหาต่างๆในเรื่องของเส้นผม


โดยทางแบรนด์เคลม มาเลยว่า 21 วัน เห็นผลลัพธ์อย่างแน่นอน และนอกจากนี้ทางแบรนด์เขาก็ยังได้รับการรับรอง
คุณภาพมาจากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา เกาหลี หรือ จีน อีกด้วย 
แล้วเดี๋ยวนัทจะพาไปดูผลิตภัณฑ์ของเขากันต่อเลยดีกว่า ตามมาต่อเลยค่า 


สำหรับตัวนี้คือ MoReturn Shampoo ขนาด 500 ml. โดยหน้าที่หลักๆของเจ้าแชมพูขวดนี้จะมา
ช่วยในเรื่องของการ detox เส้นผมของเรานั้นเองค่ะ เพราะในแต่ละวันเราเจอทั้งมลพิษ 
สารเคมีต่างๆเจ้าตัวนี้ก็จะมาช่วยตรงจุดนี้ได้อย่างเห็นผล


ส่วนนี้เป็นตัวเนื้อแชมพูค่ะ จะมีสีทองกลิ่นออกแนวพวกโสม สมุนไพรอะไรแบบนี้ ถือว่ากลิ่นดีค่ะ 
ตัวนัทเองก็ชอบกลิ่นอะไรประมาณนี้ ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ธรรมชาติมากๆ 
โดยขั้นตอนการใช้ก็ไม่ยุ่งยาก เพียงแค่ชโลมแชมพูและนวดคลึงไปที่บริเวณศรีษะเบาๆ 
จากนั้นก็ทิ้งไว้นาที แล้วก็ล้างออก เห็นมั้ยว่าง่ายยยมากกกกกก 


แล้วที่พิเศษเลยคือใครที่ซื้อเป็น Set แบบของนัท เขาก็จะแถม MoReturn Shampoo ขนาด 30 ml. 
มาให้ถึง 2 หลอด คือคุ้มค่ามากจริงๆ ทางเราปลื้มปริ้มไปเลยยย ไปเที่ยวหรือไปตจว.ก็พกพาไปได้แบบสะดวกสุดๆ  


แล้วมาต่อกันที่ MoReturn Hair Care Tonic ตัวนี้คือดีมากก เพราะจะมาช่วยในเรื่องของ
การเติมสารอาหารให้กับเส้นผมและช่วยการกระตุ้นการเกิดใหม่ของเส้นผมของเราอีกด้วย
วิธีการใช้ก็คือไม่ยุ่งยากเพราะเขาเป็นแบบสเปรย์ค่ะ เพียงแค่ฉีดลงบนศรีษะของเราหลังจากที่ผมแห้งหมาดๆ 
แล้วก็แหวกผมนิดนึงก่อนฉีดลงไปให้ทั่วศรีษะ จากนั้นก็นวดเบาๆ ให้ทั่วเพื่อให้ตัวโทนิคซึมเข้าไปบำรุงเส้นผมของเรานั้นเอง


เพียงเท่านี้เราก็จะมีสุขภาพผมที่ดูดี และหมดปัญหากังวลต่างๆในเรื่องของหนังศรีษะไปเลยย 
และในภาพนี้ก็เป็น before after ของเส้นผมนัทนั้นเองค่ะ บอกเลยว่ามันดูดีขึ้นเยอะจากตอนแรกจริงๆนะทุกคน


ความรู้สึกหลักใช้ก็คือ แฮปปี้มากกกก คันหัวน้อยลงมากจริงๆ 55555 จากคนที่ไม่ค่อยดูแลเส้นผม 
หรือมีเวลาดูแลเส้นผมน้อย พอใช้สองตัวนี้ ก็คือได้ผมที่ดูสุขภาพดีขึ้นเยอะมาก ดูแข็งแรงขึ้นด้วย


ซึ่งถ้าใครมีปัญหาเรื่องเส้นผมนัทอยากให้ลองเปิดใจกันดูเหมือนกันค่ะ แล้วจะรู้เลยว่า 21 วัน มันเห็นผลจริงๆ
แบบไม่จกตาเลยอ่า แนะนำจริงๆ ค่ะ กับ MoReturn ตัวนี้ สำหรับใครที่สนใจก็สามารถหา ข้อมูลเพิ่มเติม
ได้ที่ facebook : MoReturn Thailand วันนี้นัทขอตัวลาไปก่อนแล้วค่าา แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้านะคะ บะบายยย