Wednesday, January 30, 2019

รองพื้นงานผิวแบบสาวเกาหลี ในราคาแค่ 49 บาท


วันนี้ก่อนที่นัทจะมาอัพเดตไอเทมให้สาวๆได้รู้กัน ต้องขอแอบเล่าก่อนเลยว่า 
นัทเป็นคนนึงที่ไม่ค่อยอินกับพวกครีมรองพื้นหรือคูชั่นแบบซองอะไรสักเท่าไหร่ เนื่องจากว่า 
เราแพ้ง่าย และข้อเสียของนัทเลยคือ ชอบคิดว่า ของถูกจะไม่ดี ซึ่งต้องบอกเลยว่า
เป็นความคิดที่ไม่น่ารักเลยจริงๆ ฮืออออออออ แต่ค่ะแต่วันนี้เราจะมาอัพเดตคูชั่นแบบซองที่นัทได้ไปลองใช้มา 
แล้วมันดีค่ะ ดีกว่าที่คาดไว้เยอะมาก แต่จะเป็นตัวไหนซองไหน ตามมาอ่านกันต่อเลย 


สำหรับตัวคูชั่นที่วันนี้นัทจะมาพูดถึงก็คือ Nami Make Up Pro CC Ready Cushion SPF 35 PA++
สูตร Ready to Bright นั้นเองค่า ซึ่งราคาแค่ 49.- บาท เท่านั้นคือน่ารักเป็นมิตรมาก แต่คุณภาพคือ คุ้มค่า การปกปิด
คือ เอาไป 9.5/10 เทียบกับตัวคูชั่นที่เคยใช้มาตัวนี้ก็ถือได้ว่า มาเป็นลูกรักคนใหม่ไปเลยเน้อออ 


ซึ่งเจ้า CC ตัวนี้จะมีขนาดบรรจุอยู่ที่ 7 กรัม พกพาง่าย ใช้สะดวกดีด้วยย
ข้อดีอีกอย่างคือ ไม่ว่าจะสาวผิวสีไหน ก็สามารถใช้เจ้า CC ตัวนี้ได้ หมดห่วงเรื่อง หน้าเทา หน้าลอยไปเลย 
เพราะจะช่วยในเรื่องของการปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ


ซึ่งตรงหลังซองทางแบรนด์ก็เขียนรายละเอียดสรรพคุณต่างๆ ตามในภาพเลย
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปกปิดริ้วรอย รูขุมขน  และเรื่องของความคุมความมันบนหน้า กั้นน้ำกั้นเหงื่อ
แล้วเดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าตัวเนื้อคูชั่นจะเป็นยังไง ตามมาต่อเลยจ้าา 


และนี่ก็คือสวอซตัวเนื้อคูชั่นค่ะ มาดูกันคร่าวก่อนจะลงจริงว่าจะเป็นยังไง 
ตัวเนื้อสัมผัส คือเกลี่ยง่ายมากค่ะ เนื้อครีมมีความปกปิดใช้ได้เลย แถมตัวเนื้อก็บางเบา 
ใครสายเกาคือเลิฟแน่นอนคูชั่นตัวนี้ แล้วเดี๋ยวนัทจะไปลงผิวจริงกันไปดูกันต่อเลยค่าา


ท๊าาดาาและนี่คือหน้าสดก็นัทนั้นเองงง ไม่ต้องตกใจกันไปค่ะ มันจะโทรมๆนิดนึงงง
ขอบตามันก็จะแพนด้าหน่อยๆ 55555 แงงง น้องนอนดึกทุกวันทำงานยันเช้าให้อภัยน้องด้วยย
แล้วเดี๋ยวมาดูว่าลองทาครึ่งหน้าแล้วจะออกมาเป็นยังไง


อ่ะ ไม่โม้ค่ะ ดูจากในภาพได้เลยย ไม่ได้มางานขายเด้ออ เขาดีจริงเห็นมั้ยอ่ะ
ความแตกต่างระหว่างสองฝั่ง ฝั่งที่ทามีความเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลยจ้าา ไม่หมองคล้ำอีกต่อไปใต้ตาของเรา


รอยสิวก็คือกลบได้ในระดับนึงเลย ทาก็ง่าย ไม่ต้องมีพัฟ มีฟองน้ำให้วุ่นวายด้วย
แล้วขอตัวไปทาต่อให้เสร็จ แล้วก็แต่งหน้าก่อนน่าาาาาา


อ่ะ ไม่โม้ค่ะ ดูจากในภาพได้เลยย ไม่ได้มางานขายเด้ออ เขาดีจริงเห็นมั้ยอ่ะ
ความแตกต่างระหว่างสองฝั่ง ฝั่งที่ทามีความเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาเลยจ้าา ไม่หมองคล้ำอีกต่อไปใต้ตาของเรา
รอยสิวก็คือกลบได้ในระดับนึงเลย ทาก็ง่าย ไม่ต้องมีพัฟ มีฟองน้ำให้วุ่นวายด้วย
งานผิวฉ่ำๆแบบสาวเกาหลี ของถูกคุณภาพดีคุ้มเกินคุ้มจริงๆ ซึ่งนัทอยากให้ทุกคนลองเปิดใจแบบนัทดูค่ะ
แล้วจะรู้ว่า ไม่ได้มาเขียนหรือมาอวยอะไรขนาดนั้น แต่มันโอเคจริงๆ 
นัทชอบก็อยากให้ทุกคนได้ลองใช้กันดู และหวังว่าทุกคนก็จะชอบเหมือนกันน่าาา
ใครสนใจก็ไปหาซื้อกันได้ที่ 7-11 ทุกสาขา ค่ะ












Friday, January 25, 2019

เข้าไทยยยแล้วว !! Bbia Last Velvet Lip Tint Series 5


มีแล้วก็ต้องมีสิค่ะสาวๆ เพราะว่ามันเป็นของที่เราต้องมี จริงมั้ยยยยยย นัทเชื่อเลยว่า
สาวๆหลายคนชอบการช๊อปปิ้งเครื่องสำอางเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะลิปสติก
เพราะสามารถคลีเอทลุคสนุกๆให้เราได้อย่างมากมาย ซึ่งวันนี้นัทก็จะมาอัพเดตลิปสติกที่นัทเพิ่งได้มาลองใช้กัน
มาดูกันดีกว่า ว่าจะเป็นของแบรนด์อะไร แล้วสีจะสวยแค่ไหน ตามมาดูต่อกันเลยค่าา


ทาด๊าา เป็นไงค่ะแค่เห็นจากในภาพเฉดสีก็น่าจะตรงใจสาวๆหลายคนกันแล้ว ซึ่งลิปสติกตัวนี้
จะเป็นของแบรนด์ Bbia นั้นเองค่า ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกคอลเลคชั่นใหม่มา คือ Last Velvet Lip Tint Series 5 


โดยตัวนี้จะ เป็นลิปทิ้นท์เนื้อกำมะหยี่ มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ตัวแปรงมีความทาง่ายเกลี่ยง่าย 
กลบสีปากได้มิด แถมติดทนยาวนานด้วยค่า โดยทางแบรนด์ก็ทำออกมาทั้งหมด 5 เฉดสี 
มาดูกันดีกว่าจะมีเฉดสีอะไรบ้าง เดี๋ยวนัทจะมาสวอซให้ดูกันน 


ไหนนนใครชอบสีไหนกันบ้าง ตัวนัทเองหลักๆจะชอบ 21 22 23 เพราะรู้ว่าสีถ้าได้ง่ายแต่งตัวก็ง่าย
เหมาะกับลุควันสบายๆ จริงอีกสองเฉดก็สวยทาเบลนๆหน่อยก็ให้ลุคเป็นสาวเกาหลีอะไรแบบนี้ 
แล้วเดี๋ยวมาดูกันว่า ทาจริงสีจะออกมาเป็นยังไง บอกเลยว่ารีวิวแบบเต็มที่สุดๆ สวอซทั้งแขน สวอซทั้งปากกันไปเลยยยยย 

#21 Real Note(สีชมพูกุหลาบ)
อยากได้ลุคสวยๆใสๆธรรมชาติก็ต้องเฉดนี้เลยค่า


#22 Mellow Note(สีส้มพีชเบจ)
สาวหวาน สาวสายพีช ต้องชอบสีนี้ ถ้าแล้วมีความละมุนมากเว่อร์


#23 Romantic Note(สีส้มอมน้ำตาล)
สีส้มประการัง สีนี้มีความส้มออกตุ่นๆน้ำตาลๆนิดนึง ให้ลุคแบบ Classic สุดๆ


#24 Trendy Note(สีแดงอมน้ำตาล)
โทนแดงที่สาวหมวยแบบเราๆทาได้อย่างแน่นอน เพิ่มลุคให้ดูน่าเชื่อถือ มีเสน่ห์


#25 Final Note(สีช็อกโกบราวน์)
สีนี้คือมีความแพงสุดๆ ทาแล้วดูแพง ชวนมองมากๆ สายเที่ยวสายปาร์ตี๊ควรมีนะจ๊ะ


เป็นไงกันบ้างค่าาาา สวยๆทั้งนั้น กับ Bbia Last Velvet Lip Tint Series 5 ทั้ง 5 เฉด 
สาวคนไหนสนใจก็สามารถไปหาซื้อกันได้ที่ https://www.bbia.co.th ง่ายมากๆ ไม่ต้องบินไปถึงเกาหลี
ก็สามารถมีลิปสวยๆเก๋ไว้พก ไว้ทากันได้นะคะ แถมตอนนี้มีโปรโมชั่นดีๆอีกด้วยย
เมื่อซื้อ bia Last Velvet Lip Tint (Series 5) 1 แท่ง รับสิทธิ์แลกซื้อ Bbia Last Shadow Palette
ในราคา 99 บาท จากราคาปกติ 440 บาท ระยะเวลา 4 - 31 มกราคม 2562 คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วน่าาาาาา



Monday, January 21, 2019

REVIEW | ถูกและดี Victorian Ornate Eyes Book ที่สาวๆควรมี


ถูกและดีมีอยู่จริงบนโลกนี้นะจ๊ะ ขอบอกไว้ก่อนนนนนนเลยยยยย ซึ่งวันนี้ไอเทมที่จะมาอัพเดตกัน
ต้องถูกใจสายๆกันอย่างแน่นอน เพราะวันนี้นัทมีพาเลตอายแชโดว์สุดคิ้ว ที่สามารถอัพลุคให้เป็นสาววิคทอเรียนกันได้ 
และนี่ก็คือ Victorian Ornate Eyes Book นั้นเองเจ้าตัวนี้เป็นของแบรนด์ Daiso ค่า ถ้าซื้อได้ง่ายราคาเป็นมิตร
คุณภาพก็สมน้ำสมเนื้อตามที่บอกไปตอนแรกเลย ซึ่งดูจากแพ็คเก็จแล้วก็ดีงามดูหราอลังการ มาเป็น Book กันเลยทีเดียว 


ซึ่งทาง Daiso ก็ออกโปรดักส์มาให้เลือกถึงสองแบบ ซึ่งนัทเลือกตัว Bronzed Look มาค่ะ ซึ่งถ้าใครชอบหวานๆ
ก็จะมีตัว Rose Look ให้อีกทางเลือกค่ะ แล้วเดี๋ยวเรามาดูข้างในกล่องกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้างงง 





สำหรับภายในกล่องก็จะมี  Eye Primer, Eyeshadow , Black Eyeliner Pencil ถือว่ากล่องเดียวครบจบเลยค่ะ
สำหรับงานตา ไม่ต้องพกเยอะแค่มีเจ้ากล่องนี้ก็คลีเอทลุคได้หลากหลายแบบกันเลยย



แล้วเดี๋ยวนัทจะมาสวอซสีของตัว  Eyeshadow ให้ดูกันว่าจะออกมาสวยขนาดไหน 
และนี้ก็คือเฉดของตัว Eyeshadow ทั้งหมดค่ะ ตัวเนื้อสีที่ว่ามีความชัดพอตัวเลยค่ะ เม็ดสีแน่น
เป็นเนื้อแมตส์ เกลี่ยง่ายอยู่ค่ะ  เขาจะมีพู่กันมาให้ด้วยแต่แอบใช้ยากนิดนึง เพราะไม่ค่อยถนัดดดมั้งง T^TT


มาที่ตัว Black Eyeliner Pencil  ครั้งแรกกับการใช้อายไลน์เนอร์แบบดินสอ ชอบมากกก เพิ่งรู้ว่าเขียนง่าย 
เพราะปกติไม่ชอบการเขียนอายไลน์เนอร์เลยค่ะ เพราะมันเขียนยาก 5555 งือออ ก็เรามันคนตาสองชั้นหลบใน 
มันก็จะเขียนยากๆนิดนึงงง แต่ตัวนี้เขียนง่าย สีดำสนิท ติดทนพอสมควรเลยค่ะ ถือว่าชอบบบบค่า 


แล้วเดี๋ยวนัทจะเริ่มมาแต่งตากันให้ทุกคนได้ดูกัน ซึ่งขอดีอีกอย่างของเจ้าตัวนี้คือ
ฝากล่องด้านในเขาจะ HOW TO  ในการคลีเอทลุคต่างๆให้เราได้เลือกกันตามแต่ละโอกาศ 
ซึ่งตัวนัทก็จะลองแต่งแนวๆ CLASSIC LOOK  ดูค่ะ จะออกมาเป็นยังไงไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ 


- ขั้นตอนแรกนัทก็จะลงตัว Eye Primer ที่มีมาให้ ก็จะที่บริเวณเปลือกตาของเราทั้งสองข้าง 
และเกลี่ยๆรอบให้ทั่ว ซึ่งผลจากการใช้คือ สีติดดีมากเว่อร์ 5555 แถมตัวเนื้อ Primer บางเบาดีค่ะ ไม่หนักตาเลย

- ต่อมานั้นก็จะลง สี Caramel ที่บริเวณเปลือกตาทั้งสองข้างค่ะ และเบรนบริเวณช่วงหัวตานิดนึงง

- ลงสี Deep Plum บริเวณหางตาของเรา และคัดเบ้าค่ะ และนัทก็จะใช้ปลายพู่กันหัวเล็ก
ในการเขียนบริเวณขอบตาล่างมาถึงกลางหัวตาค่ะ 

- มาลงสี BRICK เพิ่มช่วงบริเวณด้านบนของสี Caramel ค่ะ เพื่อเพิ่มความสดใสให้กับดวงตาเรานิดนึง 


- ขั้นที่การลง Highlight  กันบ้าง นัทจะลงตัว Peach Highlight ที่บริเวณโหนกคิ้วและดวงตาค่ะ 
เพื่อเพิ่มดวงคมชัดของดวงตาและเขียน Eyeliner  นัทจะเขียนให้ชิดโคนขนตา
และเพิ่มหางตาออกมาไม่เยอะนะคะ เพื่อไม่ให้ดูดุจนเกินไป เท่านี้ก็เรียบร้อยค่า 


เป็นไงกันบ้างค่ะ CLASSIC LOOK ง่ายๆแต่งตามได้ไม่ยากเลยเห็นมั้ยยย 
มือใหม่ มือสมัครเล่นก็สามารถแต่งตามได้ง่ายๆเลยค่า 


แถมพาเลต Victorian Ornate Eyes Book ก็หาซื้อได้ไม่ยากอีกด้วย สวยครบในเซตเดียว
ราคาเพียงแค่ 200.- บาทเท่านั้น ใครสนใจไปหาซื้อกันได้ที่ Daiso ทุกสาขาเลยค่าาาาาา วันนี้ขอตัวไปก่อนนนแล้วนะคะะะ ^^ 


Tuesday, January 8, 2019

REVIEW | ผมสวยสุขภาพดีกับไดร์เป่าผม Philips BHD184


ช่วยนี้มาอัพเดตเรื่องเครื่องสำอางความสวยความงามกันมาสักพักใหญ่ เปิดปีใหม่ๆมาแบบนี้ 
นัทก็มีไอเทมตัวใหม่ที่จะมาเนรนิตทรงผมให้กับสาวๆให้สวยตอนรับปี 2019 กัน 
ต้องบอกเลยว่า คุ้มค้ากับการลงทุนกันอย่างแน่นอนค่าา


ซึ่งตัวที่นัทมาพูดถึงวันนี้ ก็คือเครื่องเป่าผมตัวล่าสุดที่นัทได้มาลองใช้นั้นเองง ซึ่งตัวนี้เป็นของ Philips ค่ะ 
ชื่อรุ่นก็คือ BHD184 นั้นเองค่ะ ไดร์เป่าผมสุขภาพดี ที่สวยงามมากเว่อร์ แถมมีความดูดี ดูอลังการณ์ไปอี๊กกกก สีสวยมาก
ม่วงแบบผู้ดีๆ กันไปเลยจ้าา ซึ่งในกล่องเขาก็จะมีโปรดักส์มาทั้งหมด 3 ชิ้น เครื่องเป่าผม และ หัวเป่า ทั้ง 2 แบบ


โดยทั้งสองแบบนี้ก็จะมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับตัวแบบแรกจะใช้สำหรับ หัวเป่าปากแคบแบบบาง
ตัวนี้จะช่วยให้เราจัดแต่งทรงผมได้สวยงามแบบดังใจชอบเลยค่ะ ซึ่งจะมีขนาดหัวเป่าอยู่ที่ 11 มม.
ซึ่งถ้าสาวๆคนไหนไปร้านทำผมบ่อยๆเราก็จะเห็นช่างทำผมเขาใช้เจ้าหัวนี้อยู่บ่อยๆในการไดร์ผมให้เรานั้นเอง 


ตัวต่อมาจะเป็นหัวเป่าแบบกระจายลมนวด ความพิเศษของตัวนี้ที่ทางแบรนด์บอกมาคือมันสามารถรักษาลอนผม
และทำให้ผมของเราดูมีวอลลุ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวนัทเองก็ยังไม่เคยได้ลองใช้เจ้าหัวเป่าแบบนี้มาก่อน
พอได้ลองแล้วรู้สึกชอบค่ะ ผมแห้งเร็วมากกก ผมไม่มีชี้ฟูเลย แถมยังสามารถใช้นวมศรีษะได้อีก ถือว่าดีงามมากก


สำหรับความพิเศษสุดท้ายคือ Philips Dryer หรือ ตัวเครื่องเป่าผมของเรานั้นเอง รูปร่างสวยงาม ดูดี ไม่หนักเลยค่ะ 
เบามือมากๆเวลาถือ และยังมีพลังไฟฟ้าถึง 2200 วัตต์ให้พลังลมเป่าได้แรงสมใจมากๆ วันนั้นสระผมเช้า รีบๆไปทำงาน 
ใช้เจ้าตัวนี้ไปบอกเลย เรื่องเป่าผมจะง่ายขึ้นมากๆ


มาดูกันที่ฟังก์ชันของตัวเครื่องเป่าผมกันบ้าง สำหรับด้านซ้ายนะคะ จะเป็นในส่วนของ ปุ่มเปิด - ปิดที่เลือกระดับความร้อนไปพร้อมกัน 
โดยจะมีให้เลือกใช้กันระดับเลยค่ะ ส่วนด้านซ้ายก็จะเป็นในส่วนของอุณหภูมิค่ะ จะมีทั้งลมร้อนและลมเย็น 




ซึ่งความพิเศษของตัวนี้อยู่ตรงนี้เลยค่ะ ในฝั่งของด้านขวา ถ้าเราเลื่อนตัวเลื่อนมาตรงกลางที่เป็น ThermoBalance 
หรือ รูปภาพตัวที่วัดอุณหภูมิ เมื่อพอเปิดขึ้น ไฟ LED ก็จะสว่าง ขึ้นมาตรงกลางด้านล่างของปุ่มฟังก์ชันนั้นเอง 
โดยเจ้าตัวนี่สามารถปรับอุณหภูมิแบบอัตโนมัติค่ะ เพื่อให้เหมาะกับสภาพเส้นผมของเราในตอนนั้น
ไม่ว่าจะผมเปียกหรือแห้งก็ตาม เพราะฉะนั้นรับรองว่าผมของเราก็จะสวยสุขภาพดีอย่างแน่นอนค่ะ
และสองปุ่มด้านบนของตัวด้ามจับ ตัวแรกก็จะเป็น ตัวเป่าลมเย็นค่ะ หรือ รูปเกร็ดหิมะนั้นเอง ลมเย็นสบายมากๆ 
ตั้งแต่ได้ลองใช้มานัทก็ชอบโหมดนี่มากที่สุด รู้สึกสบายสุดๆ และปุ่มด้านล่างที่เป็นวงกลมวนๆ 
ก็จะเป็นปุ่มเพิ่มพลังเทอร์โบว์หรือ ความแรงของลมค่ะ 
เผื่อเวลาผมแห้งไม่ทันกดเจ้าปุ่มนี้ก็ประหยัดเวลาไปได้อีกเยอะเลยค่ะ

หรือถ้าใครสงสัยวิธีใช้ภายในกล่องก็มีวิธีการใช้ วิธีการเก็บบอกเอาไว้ให้ด้วยนะคะ แบบในภาพเลยย  
แล้วเดี๋ยววันนี้ นัทจะมาไดร์ผมง่ายๆให้เพื่อนๆได้ดูกัน โดยใช้เจ้า Philips BHD184 
ตัวนี้ล่ะค่าาา ตามมาดูกันเลยยยยยยยยยยย 


ซึ่งโดยในภาพ ผมนัทก็แห้งแบบธรรมชาติมาประมาณนึง แล้วนัทก็จะใช้เจ้าหัวเป่าแบบกระจายลมนวด มาช่วยให้ผมที่ชื้นอยู่
แห้งสนิทขึ้น นัทใช้ลมเย็นในการเป่านะคะ โดยแบ่งผมออกเป็นทั้งหมด 2 ฝั่งค่ะ เมื่อผมแห้งเรียบร้อย
 จะสังเกตุได้เลยว่าผมมีความเงางาขึ้นแบบเห็นได้ชัด



 จากนั้นนัทก็จะเตรียม โรลม้วนผม มาสองอัน แล้วก็เปลี่ยนหัวของเครื่องเป่า เป็นอีกหัวค่ะ 
โดยจะใช้หัวเป่าปากแคบแบบบางในการไดร์ผม และจัดทรงผมค่ะ 



โดยเริ่มจากการแบ่งช่อผม ที่ละช่อ และเริ่มม้วนผมกับโรลม้วนโดยจะใช้ตัวไดร์เป่าลงที่โคน
และผมที่ม้วนอยู่ในโรลโดยใช้ความแรงลมแบบระดับ 3 ค่ะ  



เป็นไงบ้างค่ะเรียบร้อยมาฝั่งนึงแล้ว เห็นความแตกต่างกันแบบสุดๆ ระหว่างข้างที่ไดร์และยังไม่ได้ไดร์ 
โดยฝั่งซ้ายจะเห็นได้เลยว่า ผมดูเป็นวอลลุ่มมากขึ้น ดูหนาขึ้น และดูเงางามสุขภาพดีไม่ลีบแบน 
โดยรวมถือว่าชอบมากค่ะ ดีใจที่ได้เจ้าตัวนี้มาครอบครองง ถูกใจมากๆ 


และสำหรับใครที่ชื่นชอบก็อยากให้ได้ลองกันนะคะ คิดว่าน่าจะตอบโจทย์และถูกใจหลายๆคนกันอย่างแน่นอน
สามารถไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมกันได้ที่ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ หรือช้อปออนไลน์ที่ Philips Official Shop
บน Lazada / Shopee แล้วเดี๋ยววันนี้นัทต้องขอตัวไปก่อนแล้วนะคะ ไว้เจอกันใหม่ค่า